Chapter 2 – Part 2
ไม่คิดเลยว่าจะเป็นแบบนี้ อัลเล็ตคิด
ระหว่างที่เท็กเนียวกำลังพุ่งตรงมาที่เค้า
การโจมตีออกมาจากใต้ดินกะทันหันก็เป็นอะไรที่น่าตกใจอยู่
แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือการที่เท็กเนียวซึ่งเป็นผู้บัญชาการเหล่าปีศาจโผล่มาเองต่างหาก
“โอ๊ะ ชั้นลืมอะไรอย่าง” พูดจบเท็กเนียวหยุดลงกะทันหัน
ในขณะนั้นคนอื่นๆ ก็เข้ามาล้อมเท็กเนียวไว้
และพร้อมที่จะโจมตีทุกเมื่อ แต่เท็กเนียวยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ และก็พูดขึ้น
“อย่าพึ่งใจร้อนกันนักสิ บุบผาทั้งหลาย
มีอย่างนึงที่เราควรจะทำก่อนสู้กันไม่ใช่เหรอ?”
“แกพูดอะไรน่ะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว ก็การทักทายไงล่ะ เวลาเธอพบกันเธอก็ต้องพูด “สวัสดี”
ไม่ใช่เหรอ เวลาจากกันก็ต้องบอกว่า “ลาก่อน”
การทักทายนี่ล่ะคือจุดเริ่มต้นของชีวิตเลย เธอไม่คิดแบบนั้นเหรอ”
อัลเล็ตไม่เข้าใจเท็กเนียว ไม่ใช่ว่าเค้าไม่เข้าใจความหมาย แต่เค้าไม่เข้าใจเจตนาของมันต่างหาก
ยังไงก็ตามฮานที่ยืนอยู่ข้างๆเค้าก็พยักหน้าเล็กน้อย
“สวัสดี เมี๊ยว”
“ใช่ แบบนั้นล่ะฮาน ชั้นก็ขอ สวัสดี เช่นกัน เอาล่ะมาเริ่มกันเลยมั๊ย”
พูดจบเท็กเนียวก็ทำท่าเหมือนตะโกนขึ้นไปบนฟ้าแต่ไม่มีเสียงออกมา
เค้ากำลังสั่งการไปยังปีศาจตัวอื่นๆ
“มันเรียกกำลังเสริมแล้ว” เฟรมี่พูดขึ้น
ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามมาจากรอบทิศ
“ชักจะไม่ได้การแล้วสิ นายจะทำยังไงอัลเล็ต” เฟรมี่ถาม
“แน่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ !? ยิงมันเลย! ทุกคนจัดการมัน!”
มอร่าตะโกนและพุ่งเข้าไปหาเท็กเนียวซึ่งกำลังยืนอยู่อย่างใจเย็น แต่ทว่าพวกพ้องทุกคนไม่มีใครซักคนขยับตัว
มอร่าหนุดทันทีเมื่อเห็นว่าไม่มีใครตามเธอมา
“พวกนายรออะไรกันอยู่เนี่ย” มอร่าถาม
“นั่นสิ อัลเล็ต เป็นอะไรไป? ไม่เข้ามาจัดการชั้นเหรอ?”
เท็กเนียวหัวเราะ และ ค่อยๆเดินเข้าไปหาอัลเล็ต
อัลเล็ตไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ที่นี่กำลังจะโดนล้อม และบางทีเท็กเนียวอาจจะวางกับดักอะไรบางอย่างไว้
และเหนือสิ่งอื่นใดอัลเล็ตไม่รู้ว่าคนที่ 7 จะลงมือตอนไหน
ถ้าเป็นปรกติแล้ว อัลเล็ตจะสั่งให้หนีโดยไม่ลังเล
อาจารย์มักสอนเค้าว่าอย่าสู้กับศัตรูที่ไม่มีทางชนะ
แต่ทว่าตอนนี้อัลเล็ตไม่ได้อยู่ในภาวะที่จะใช้เหตุผลตัดสินใจ
“ชามอส โกดอฟ ฮาน! พวกนายไปตั้งรับศัตรูที่เข้ามาฝั่งตะวันออกเหนือ!”
อัลเล็ตตะโกนขณะที่จับดาบในมือแน่น
“เฟรมี่ คอยสนับสนุนจากแนวหลัง! มอร่า
โรโรเนีย และชั้น..”
อัลเล็ตหยิบระเบิดขวันออกจากกระเป๋าที่เข็มขัดและปาไปที่เท้าเท็กเนียว
“จะจัดการเท็กเนียวเอง!”
สิ้นเสียงอัลเล็ตทุกคนก็เคลื่อนไหวตามแผน
ชามอสล้วงหญ้าหางจิ้งจอกเข้าไปในคอและอาเจียนเอา
จูม่า(ชื่อเรียกสัตว์ประหลาดในท้องชามอส) ออกมา จากนั้น ฮาน และ
โกดอฟก็วิ่งไปทางตะวันออกเหนือไปพร้อมฝูงจูม่า
เฟรมี่ถอยไปด้านหลังเอาไรเฟิลประทับบ่าเล็งไปที่เท็กเนียว ส่วนมอร่าอ้อมไปด้านหลังเท็กเนียวและพึ่งเข้าจู่โจมพร้อมอัลเล็ตที่อยู่ด้านหน้า
“อือ ชั้นว่าแล้ว ว่าพวกเธอต้องคิดจะลุยเข้ามาแบบนี้”
เท็กเนียวชกไปทีอัลเล็ตที่พุ่งเข้ามา
แต่เค้าก็กันไว้ได้แต่ก็ทำให้แขนถึงกับชาไปทั้งแขน
ความต่างของพลังของทั้งสองนั้นมากเกินไป
มอร่าพยายามจะซัดเท็กเนียวด้วยสนับมือของเธอ แต่เท็กเนียวก็หลบได้
ถึงแม้มอร่าจะโจมตีต่อเนื่องอีกหลายครั้งก็ไม่เป็นผล
“อัลเล็ต ถอยออกไปนายไม่ใช่คู่มือของมัน” มอร่าตะโกน
แต่อัลเล็ตนั้นรู้ตัวดีอยู่แล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นศัตรูที่อัลเล็ตตั้งใจที่จะจัดการให้ได้ตลอดมา
ระหว่างที่หลบการโจมตีที่ถึงตายของเท็กเนียวอยู่นั้น อัลเล็ตก็ดึงโซ่ที่เป็นอาวุธลับออกมาจากกระเป๋าและใช้มันพันเข้ากับมือเท็กเนียว
มันเป็นกุญแจมือที่ มีโซ่ยาวเชื่อมอยู่ฝั่งนึงคล้องกับมือของอัลเล็ต
ส่วนปลายโซ่มีเหล็กแหลมซึ่งตอนนี้แทงเข้าที่มือขวาเท็กเนียวโดยมีโซ่พันอยู่รอบๆ
“อุ๊” เท็กเนียวร้องออกมา
อัลเล็ตเก็บดาบ จากนั้นก็ใช้ 2 มือจับโซ่ไว้
เค้าออกแรงดึงสุดแรงทำให้เท็กเนียวเสียหลักและโดนหมัดมอร่าเข้าที่หน้า
“เข้าใจล่ะ ต้องการจำกัดการเคลื่อนไหวชั้นงั้นเหรอ”
พอพูดจบเท็กเนียวก็ออกแรงดึงกลับเต็มแรง ทำให้ อัลเล็ตถูกกระชากมาตามแรงดึง
เท็กเนียวง้างหมัดเตรียมซัดไปที่อัลเล็ตที่กำลังลอยมาหา
“ระวัง!” เฟรมี่ตะโกน
อัลเล็ตไม่สามารถหลบได้จึงใช้สนับแข้งรับการโจมตีของเท็กเนียว
ความเจ็บปวดพุ่งไปทั่วทั้งขา ถึงกระนั้นอัลเล็ตก็ไม่ยอมคลายแรงที่ดึงโซ่ไว้
จากช่องว่างเล็กน้อยที่อัลเล็ตสร้างไว้
มอร่าใช้จังหวะนั้นเหวี่ยงหมัดไปที่เท็กเนียว
เวลาเดียวกันนั้นเองเฟรมี่ก็ยิงไรเฟิลออกมา
หมัดของมอร่าถากหน้าของเท็กเนียวไป
ส่วนกระสุนของเฟรมี่นั้นเจาะเข้าที่ไหล่ของเท็กเนียว
“ดึงมันไว้อัลเล็ต” เฟรมี่ตะโกน ระหว่างที่กำลังรีโหลดกระสุน
“ชั้นจะทุ่มแรงทั้งหมด ตรึงมันไว้เอง พวกเธอรีบจัดการซะ!”
“ดีมาก อัลเล็ต ตรึงมันไว้แบบนั้นล่ะ!”
แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงแปลกๆดังขึ้นจากด้านหลังของทุกคน
“ไอ้ปีศาจชั่ว แกมันไอ้เศษสวะ ถอยห่างจากอัลเล็ตซะ!”
ทุกคนมองไปยังต้นกำเนิดเสียง แม้แต่เท็กเนียวก็มองไปด้วยท่าทางแปลกใจ
“ชั้นจะชำแหละแกเป็นชิ้นๆ ไอ้ปีศาจชั่ว” โรโรเนียกำลังสบถออกมาไม่หยุด
โรโรเนียที่เอาแต่ดูการต่อสู้เฉยๆมาตั้งแต่เริ่มในที่สุดก็เคลื่อนไหวแล้ว
เธอชักแส้ของเธอออกมาและเหวี่ยงมันออกไป แส้เหล็กยาว
30 เมตร ตวัดเหมือนมีชีวิต ปลายแส้ตวัดด้วยความเร็วที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เท็กเนียวก้มตัวหลบแต่ ปลายแส้ก็กรีดโดนบริเวณอกของเท็กเนียว
ทันใดนั้นเลือดสีแดงก็พุ่งออกมาจากบาดแผลนั้น
“อั่ก” เท็กเนียวครางด้วยความเจ็บบวดเป็นครั้งแรก
อัลเล็ตรู้จักพลังของโรโรเนียดี
แก่นกลางของแส้นั้นชุ่มไปด้วยเลือดของตัวเธอเอง และด้วยความสามารถในการควบคุมเลือดของเธอ
เธอจึงสามารถบังคับการเคลื่อนไหวของมันได้ดังใจ
และนอกจากนั้นหากแส้นั้นสร้างรอยแผลให้ศัตรูได้ล่ะก็
เธอก็จะสามารถดึงเลือดออกจากร่างของศัตรูได้ตามที่เธอต้องการ
“ไม่จริงน่า..” อัลเล็ตพึมพำออกมา
ขณะที่เห็นท่าทางของโรโรเนียตอนนี้ซึ่งต่างจากบุคลิคปรกติของเธอโดยสิ้นเชิง
“เลือดของแกไม่มีทางหยุดไหลหรอก! ชั้นจะชำแหละแกเป็นชิ้นๆให้เอง ไอ้ปีศาจ!” โรโรเนียยังคงเหวี่ยงแส้อย่างบ้าคลั่ง
เธอไม่ใช่โรโรเนียคนเดิมที่รว่มทางกับพวกเค้ามาตลอดอีกแล้ว
เท็กเนียวพยายามแกะโซ่ของอัลเล็ตที่พันมืออยู่ออกแต่ เฟรมี่ก็คอยยิงสกัดไม่ให้เท็กเนียวสามารถทำได้
จังหวะนั้นเองที่มอร่าเห็นช่องว่างและพุ่งเข้าไปซัดเท็กเนียวจนกระเด็นไปด้านหลัง
อัลเล็ตซึ่งยังคงดึงโซ่อยู่นั้นโดนแส้ของโรโรเนียที่ตวัดอย่างบ้าคลั่งเป็นแผลเล็กน้อย
แต่เค้าก็ยังคงเพ่งสมาธิไปที่โซ่ เค้าทำได้แค่หวังว่าโรโรเนียจะไม่คลั่งจนฆ่าพวกเดียวกันไปโดยไม่รู้ตัว
พื้นบริเวณรอบเท็กเนียวชุ่มไปด้วยเลือด
นี่เราทำได้จริงๆเหรอ อัลเล็ตคิด
ทันใดนั้นก็มีเสียงกระสุนดังขึ้น โรโรหยุดแส้ของเธอ
เนื่องจากกระสุนของเฟรมี่วิ่งผ่านหน้าของเธอไป
“เธอทำอะไรของเธอน่ะเฟรมี่!” อัลเล็ตตะโกนออกไปทันที
“นายอยู่ในอันตรายนะ!” เฟรมี่ตะโกนสวนกลับไประหว่างที่รีโหลดกระสุน
โรโรเนียจ้องไปที่เฟรมี่เขม็งอยู่พักนึง
ก่อนที่จะละสายตาและเริ่มโจมตีเท็กเนียวต่อ
“โถ่ การที่พวกพ้องแตกคอกันเองนี่มันช่างน่าเศร้าจริงๆ
พวกเธอเป็นอะไรกันไปแล้ว” เท็กเนียวยังคงแกล้งเล่นละครไร้สาระ
ระหว่างหว่าที่พยามแกะโซ่ออกแต่เฟรมี่ก็ยิงสกัดไว้อีกครั้ง
“อัลเล็ตระวังตัวไว้ เราไม่รู้ว่าใครคือศัตรูนะ!”
เฟรมี่ตะโกนบอก อัลเล็ตมองไปที่เธอ
เธอเล็งปืนไปที่เท็กเนียวแต่ขณะเดียวกันเธอก็คอยเฝ้าระวังพฤติกรรมของทุกคนอยู่
“ชั้นคือชายที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก เธอไม่ต้องคอยดูแลชั้นหรอกเพ่งสมาธิไปที่เท็กเนียวเถอะ”
“อย่างที่อัลเล็ตบอกนั่นล่ะเฟรมี่ แล้วก็อย่าทำอะไรบ้าๆล่ะ”
มอร่าเสริม และบอกเป็นนัยๆว่าเธอก็จับตามองเฟรมี่อยู่เช่นกัน
แม้ในตอนอัลเล็ตเองก็ยังไม่รู้ว่าใครคือคนที่ 7
แม้เค้าจะคอยจับตาดูทุกคนอยู่เช่นกัน
“ตายซะ! ตาย ตาย ตาย ตาย ตายซ้าา” โรโรเนียยังคงตะโกนสาปแช่งอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้นเท็กเนียวก็พูดขึ้นมา
“ชั้นยอมแพ้ ชั้นพลาดเองน่ะล่ะ
ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะแอบโจมตีพวกเธอแบบนี้”
ไม่มีใครตอบสนองคำพูดนั้น
“ชั้นโผล่มาก็เพื่อตั้งใจให้พวกเธอตกใจน่ะล่ะ แต่ก็ไม่คิดว่าพวกเธอจะตัดสินใจรุมชั้นแบบนี้”
พูดจบเท็กเนียวก็หัวเราะออกมา
“พูดไร้สาระ อะไรน่ะ” มอร่าพูด
“เฮ้ออ ไร้อารมขันกันจริงๆเลยนะ” เท็กเนียวพูดขณะเอามือท้าวคาง
ในขณะนั้นโรโรเนียกำลังตวัดแส้ของเธอมายังเท็กเนียว พร้อมกันนั้น
เฟรมี่ก็ยิงกระสุนมาอีกนัด
ขณะที่ มอร่า โรโรเนีย และเฟรมี่โจมตี
ระหว่างที่อัลเล็ตพยายามรั้งเท็กเนียวไว้
แทบจะพูดได้เลยว่าชัยชนะต้องตกเป็นของพวกเค้าอย่างแน่นอน
แต่ถึงอย่างนั้นเท็กเนียวก็ยังมีสีหน้าไม่ยีหร่ะต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
อัลเล็ตมองไปยังพวกโกดอฟ
ทุกคนยังคงป้องกันพวกปีศาจที่บุกเข้ามาได้ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง
“โรโรเนีย เธอไม่ควรพูดจาอะไรแบบนี้นะ
คำพูดหยาบคายน่ะจะทำให้จิตใจเธอต่ำลงนะ”
เท็กเนียวยังคงพูดอย่างไร้ความกดดันระหว่างที่หลบแส้ของโรโรเนีย
หลังจากนั้นเท็กเนียวก็หันไปยังอัลเล็ต “โซ่นี่ใช้ได้เลยนะ
เสร็จเรื่องแล้วชั้นขอได้มั๊ย?”
แม้ว่าเลือดยังคงพุ่งออกมาจากบาดแผลของเท็กเนียว และไม่ว่าเค้าจะถูกกดดันขนาดไหน
เท็กเนียวก็ยังไม่หยุดหยอกล้อเหล่าบุบผา
อัลเล็ตไม่เข้าใจจุดประสงค์ของเท็กเนียว
ยังกับว่ามันมาเพื่อให้พวกเค้าฆ่าซะอย่างนั้น
แต่ตอนนั้นเองเฟรมี่ก็เข้ามาด้านหลังอัลเล็ตและกระซิบบอกบางอย่าง
“ถึงเราจะสู้ต่อไปแบบนี้พวกเราก็ไม่ชนะหรอก”
“จะชนะเท็กเนียวได้เราต้องโจมตีให้รุนแรงกว่านี้อีกประมาณ 5 เท่า”
อัลเล็ตตะลึงเมื่อได้ยินเฟรมี่พูดแบบนั้น
เพราะเค้าเองก็คิดว่าพวกเค้าคงจะสามารถชนะเท็กเนียวได้แน่นอนแล้ว
“ถ้าพวกเราสู้แบบนี้ต่อไปเรื่อยเราอาจจะชนะได้ แต่ก่อนหน้านั้นคนที่ 7
คงจะแอบฆ่าพวกเราตอนเผลอแล้วอ้างว่าเป็นเพราะความพลาดพลั้งระหว่างต่อสู้กับเท็กเนียว”
“หรือบางทีมันอาจจะเล็งโจมตีพวก ฮาน ชามอสกับ..”
ระหว่างที่คุยกันอยู่มอร่าและโรโรเนียกำลังต่อสู้กับเท็กเนียวอยู่
แต่ระหว่างที่สู้เท็กเนียวก็ยังยิ้มอย่างไม่ยีหร่ะ
“ไม่เป็นไรน่าเราสู้ได้แน่”
“......”
“ชั้นเห็นทางชนะแล้วไม่ต้องห่วง”
จริงๆแล้วอัลเล็ตมีอาวุธลับสุดยอดซ่อนอยู่ใต้เกราะที่ใหล่ขวา
เป็นอาวุธลับสุดยอดที่เอโทร อาจารย์ของเค้าคิดค้นขึ้นเมื่อประมาณครึ่งปีก่อน
อาวุธนี้เรียกได้ว่าเป็นผลงานขั้นสุดยอดของเค้าเลยก็ว่าได้ มันเป็นอาวุธที่สามารถฆ่าปีศาจตัวใดก็ได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
การที่เค้าพยายามยับยั้งการเคลื่อนไหวของเท็กเนียวเป็นแค่การเตรียมการสำหรับใช้สิ่งนี้โดยเฉพาะ
เค้าต้องการให้ มอร่า โรโรเนีย และเฟรมี่ จู่โจมเท็กเนียวอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเท็กเนียวเปิดช่องว่าง เค้าก็จะจัดการมันด้วยอาวุธนี้
อัลเล็ตเฝ้ารอโอกาสที่เท็กเนียวเผลอ ไม่ได้สนใจเค้าเพื่อจู่โจม
แต่ทันใดนั้นเท็กเนียวก็พูดบางอย่าง
“ชั้นจะบอกอะไรดีๆให้พวกเธออย่างนึง”
ทั้งสาม หยุดจู่โจมโดยไม่รู้ตัว
“อัลเล็ตนายอาจคิดว่า ที่ชั้นมาสู้กับพวกนายที่นี่อาจจะเป็นกับดัก
แต่นายคิดผิดแล้ว ชั้นมาที่นี่เพื่อฆ่าพวกนายทั้งหมด”
“อย่าไปฟังมัน” เฟรมี่พูด
“เอาล่ะชั้นคงต้องเอาจริงล่ะนะ ชั้นคงต้องขอใช้ไพ่ตายของชั้นซะที”
มันวางแผนอะไรอยู่ อัลเล็ตคิด
ถ้าอยากจะใช้ไพ่ตายจริงก็ไม่เห็นต้องประกาศให้รู้นี่
หรือว่านี่จะทำเพื่อจุดประสงบางอย่าง หรือแค่ขู่กันแน่?
ทันใดนั้นบริเวณอกของเท็กเนียวก็เปลี่ยนสภาพ เป็นปากขนาดยักโผล่ออกมา
เท็กเนียวล้วงมือเข้าไปในปากบริเวณอก ตอนนั้นเองที่เฟรมี่และโรโรเนียโจมตีไปยังเท็กเนียว
แต่เท็กเนียวก็สามารถหลบได้หมด
“ตั้งใจดูดีๆล่ะ นี่ล่ะไพ่ตายของชั้น”
สิ่งที่เท็กเนียวหยิบออกมาจากปากที่หน้าอกคือผลมะเดือขนาดใหญ่
“โทษทีผิดอัน” มันพูดพลางเคี้ยวผลมะเดื่อ
ในตอนนั้นทุกคนก็รุมโจมตีไปที่เท็กเนียวอีกครั้ง
“เดี๋ยว เดี๋ยว สิ รอชั้นหยิบอาวุธลับของชั้นก่อนเซ่”
เราจะปล่อยให้มันใช้ไพ่ตายไม่ได้ ไม่งั้นสถานการณ์อาจจะแย่กว่านี้
ต้องรีบหาจังหวะใช้อาวุธลับให้ได้แล้ว อัลเล็ตคิด
ขณะที่อัลเล็ตกำลังลนอยู่นั้น เค้าก็เผลอผ่อนแรงที่โซ่
เท็กเนียวซึ่งรู้สึกถึงสิ่งนั้นก็กระชากโซ่ด้วยแรงมหาศาลชนิดที่เทียบกับที่ผ่านมาไม่ได้
ทำให้อัลเล็ตเสียหลัก และดึงโซ่จนขาด
จนถึงตอนนี้เท็กเนียวยังไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริงเลย
“บ้าเอ้ย!”
จากนั้นเท็กเนียวก็โดดออกมาจากวงล้อมของทั้ง4
และวิ่งไปยังตะวันออกเหนือ ที่ๆพวกชามอสกำลังสู้กับพวกปีศาจที่เข้ามา
เท็กเนียววิ่งด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ ความเร็วเค้าแทบจะพอๆกับความเร็วของฮาน
หรือบางที่อาจจะไวกว่าด้วยซ้ำ อัลเล็ตพยายาม ปามีดเพื่อสกัดให้ช้าลงแต่ก็ไม่เป็นผล
“เอาล่ะนะ”
เท็กเนียวล้วงมือเข้าไปในปากบริเวณอกแล้วหยิบพวงระเบิดคล้ายองุ่นออกมา
และเค้าก็ขว้างมันขึ้นไปบนฟ้า
บนยอดโขดหิน ทางตะวันออกเหนือ ฮาน โกดอฟ
และชามอสตรึงกำลังป้องกันพวกปีศาจประมาณ 300 ตัว สถานการณ์ของทั้ง 2
ฝ่ายยังกินกันไม่ลง จูม่าประมาณ 70 ตัวกำลังช่วยกันต่อสู้กับพวกปีศาจ
ถ้าเท็กเนียวไปถึงที่นั่นล่ะก็ สถานการณ์จะพลิกกลับทันที
“ฮาน โกดอฟ เท็กเนียวกำลังไปทางนั้น!”
แต่ก่อนที่ทุกคนจะทันทำอะไร
ระเบิดของเท็กเนียวก็ระเบิดขึ้นตรงหน้าพวกเค้า ปรากฏเป็นควันสีเงินฟุ้งกระจาย
เศษประกายสีเงินติดตามตัวของพวกจูม่า
พริบตาต่อมาพวกจูม่าก็ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
ขณธที่เริ่มมีขวันสีขาวพวยพุ่งออกจากร่างของเหล่าจูม่า
“อ๊ะ” ชามอส ตกใจเมื่อเห็นเหล่าจูม่ากำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น
“เมี๊ยว นี่มันอะไรเนี่ย!”
ฮานพูดระหว่างที่เอามือบังตาไว้ ควันสีเงินกระจายไปทั่วบริเวณนั้น
ปกคลุมทั้งเหล่าบุบผา จูม่า และพวกปีศาจ
แต่พวกปีศาจดูจะไม่มีปัญหาอะไรกับจากฝุ่นควันพวกนี้
“นี่มันอะไรน่ะ! ทุกคน! เกิดอะไรขึ้น! ระวังตัวด้วย!”
ชามอสที่กำลังลนลานกำลังกอดจูม่าตัวนึงที่อยู่ข้างตัวเธอไว้
ในขณะนั้นเอง พวกปีศาจบริเวณนั้นทั้งหมดก็ตั้งท่าเตรียมเข้าจู่โจม
และเท็กเนียวเองก็มุ่งหน้าไปยังชามอสเช่นกัน
“ฮาน โกดอฟ ปกป้องชามอส!” สิ้นเสียงตะโกนของอัลเล็ตทั้ง 2
ก็พุ่งมาคุ้มกัญชามอสทันที ส่วนเฟรมี่ยิงสกัดไปที่ขาเท็กเนียวทำให้ความเร็วตกลง
มอร่า และโรโรเนียก็พุ่งเข้าโจมตีเท็กเนียวเพื่อปกป้องชามอส
สนามรบเริ่มวุ่นวาย จูม่าของชามอสไม่สามารถต่อสู้ต่อได้
และพวกปีศาจเริ่มล้อมพวกเค้าเข้ามา ยิ่งกว่านั้นเท็กเนียวก็ยังคงจู่มโจมเข้ามาด้วย
แต่ชอมอสเป็นคนเดียวที่ไม่ขยับ
เธอยืนตัวแข็งจ้องมองจูม่าที่ดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น
“ชามอส! ตั้งสติหน่อย! มารวมกับพวกเรา!”
อัลเล็ตตะโกน แต่เธอไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นแล้วในตอนนี้
เธอค่อยๆคลานเข้าไปยังจูม่าทากขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างๆเธอแล้วพยายามเช็ดเอาผงสีเงินที่ติดตัวจูม่านั้นออก
“นี่มันอะไรเนี่ย! ร้อนนน! ร้อนนจังเลย!”
ผงสีเงินที่ชามอสเช็ดออกมาติดตามเสื้อผ้าของเธอเริ่มมีควันลอยออกมา
ทันใดนั้นอัลเล็ตก็เข้าใจ
ผงสรเงินนั้นทำปฏิกิริยากับผิวของพวกจูม่าและก่อให้เกิดความร้อนสูงขึ้น
อัลเล็ตมองไปรอบๆ
เค้าเห็นโรโรเนียกำลังถูกล้อมโดยพวกปีศาจและเท็กเนียว พยายามป้องกันการโจมตีอยู่
โดยมีมอร่า และเฟรมี่พยายามช่วยอย่างสุดความสามารถ
“ชามอสให้ จูม่าช่วยสู้ซะ ไม่งั้นพวกเราเสร็จหมดแน่!”
“ไม่! ทุกๆคนบาดเจ็บอยู่ ถ้าชามอสไม่รีบรักษาทุกคนจะตาย!”
ชามอสเริ่มร้องไห้เหมือนเด็กๆ เธออ้าปากและตะโกน “ทุกคน! กลับมา!”
จูม่าค่อยๆกลับเข้าไปในท้องของเธอทีละตัว
ทุกครั้งที่เธอกลืนจูม่ากลับไป เธอก็ร้องครางด้วยความเจ็บปวด
และอาเจียนเอาเมือกสีเงินออกมา
“ทุกคนกลับมาให้หมด พวกเธอจะตายกันหมดถ้ายังเป็นแบบนี้!” ชามอสตะโกน พวกจูม่าค่อยๆกลับเข้าไปในตัวเธอเรื่อยๆ
“ชามอส อย่าเรียกพวกมันกลับมา!” อัลเล็ตตะโกนออกไปโดยไม่คิด
“เงียบไปเลย!” ชามอสตะโกนระหว่างที่ยังคงรับจูม่ากลับเข้าไปและอาเจียนออกมา
“ดูสถานการณ์หน่อยสิชอมอส ถ้าเป็นแบบนี้เราจะตายกันหมดนะ!”
“เงียบไป เงียบไป เงียบไป! ชามอสไม่สนหรอก!”
ระหว่างที่ชามอสกำลังงอแงอยู่นั้นพวกปีศาจก็พุ่งไปยังเธอแต่อัลเล็ตก็เข้าไปขวางไว้
“เด็กๆของชามอสกำลังทรมาน ทุกคนเป็นเด็กดี และตอนนี้ทุกคนบอกชามอสว่าทรมาน
ชามอสไม่ยอมหรอก! นายจะไปรู้อะไร! ทุกๆคนกำลังทรมานนะ!”
ในที่สุดจูม่าทุกตัวก็กลับเข้าไปในตัวชามอส
เหล่าบุบผาถูกล้อมโดยสมบูรณ์ เท็กเนียวยืนมองสถานการณ์อย่างอารมณ์ดี
“นายพลาดแล้วล่ะ อัลเล็ต” เท็กเนียวพูด “นายน่าจะเลือกที่จะหนีไปซะ
นายน่าจะรู้ตัวนะว่านายยังไม่พร้อมจะสู้กับชั้นตอนนี้”
“บ้าเอ้ย!”
หลังจากที่กำจัดปีศาจที่อยู่ตรงหน้าเค้าเสร็จ
อัลเล็ตก็ชี้ปลายดาบไปยังเท็กเนียว
“หยุดนะ อัลเล็ต! นายจะตายเอานะ!” เฟรมี่ตะโกน
เธอไม่สามารถช่วยเค้าได้ เพราะตอนนี้การรับมือกับพวกปีศาจรอบๆก็เต็มที่แล้ว
“กลับมาอัลเล็ต นายสู้มันไม่ได้หรอก!” มอร่าพูด แต่คำเตือนของทั้ง 2 ก็ไปไม่ถึงหูอัลเล็ต
“ชั้นว่านายยอมแพ้แล้วหนีไปซะตอนนี้ดีกว่านะ” เท็กเนียวหัวเราะ
“ย๊ากกกกกก” อัลเล็ตตะโกนและพุ่งเข้าใส่เท็กเนียว
ในสายตาคนอื่นนั้นไม่ว่าใครก็เห็นว่าเค้าแค่พุ่งเข้าไปโจมตีอย่างขาดสติเท่านั้น
แต่ความจริงแล้ว ทั้งหมดเป็นแผนของอัลเล็ต
เค้าแสร้งแกล้งทำเป็นโกรธขาดสติ เพื่อให้เท็กเนียวไม่ระวังตัว
และในสถานะกาณ์ที่พวกเค้าเสียเปรียบแบบนี้พวกปีศาจจะต้องประมาทและทำให้มีช่องว่างแน่นอน
“นายจบแล้ว” เท็กเนียวฟาดมือออกไปเหมือนดาบ
อัลเล็ตกลิ้งหลบได้ และยังคงพุ่งเข้าไปยังเท็กเนียวโดยไม่สนใจอันตราย
“เมี๊ยววว นายทำอะไรเนี่ย!” ฮานพุ่งตามเค้ามาเพื่อปกป้องเค้า
แต่ทันทีที่ทั้งคู่สบตากัน ฮานก็เข้าใจจุดมุ่งหมายของอัลเล็ตทันที
ฮานจึงปล่อยอัลเล็ตไป
เท็กเนียวซัดอัลเล็ตกระเด็นไปนอนกับพื้น ทันใดนั้นปีศาจ 3
ตัวก็เข้ามาปิดทางหนีของเค้า
แต่อัลเล็ตลุกขึ้นโดยไม่สนใจพวกปีศาจ เค้ายังคงชี้ดาบไปที่เท็กเนียว
“ระวัง!”
ทันใดนั้นฮานก็พุ่งเข้าไปในวงล้อม
ในตอนนั้นทุกคนคิดว่าอัลเล็ตขาดสติไปแล้วและฮานกำลังพุ่งเข้าไปช่วยเค้า
แต่อัลเล็ตกลับใช้มือรับฮานไว้ ส่วนฮานก็ใช้เค้าเป็นฐานส่งและเค้าพุ่งไปยังเท็กเนียว
เท็กเนียวเตรียมตั้งรับการโจมตีของฮาน แต่ฮานไม่ได้เข้ามาโจมตีเค้า
ฮานนั้นเล็งไปทีปลายโซ่ที่โดนตัดขาด เค้าพุ่งเข้าไปจับปลายโซ่ไว้
และใช้แรงทั้งหมดดึงโซ่เพื่อผนึกแขนซ้ายของเท็กเนียไว้
ในเวลาเดียวกันอัลเล็ตก็ใช้ระเบิดควันและหนีออกมาจากวงล้อมของพวกปีศาจ
เท็กเนียวพยายามจะสบัดฮานให้หลุดแต่มอร่าก็พุ่งเข้ามาล๊อคแขนขวาเท็กเนียวไว้
อัลเล็ตที่กำลังวิ่งไปยังเท็กเนียวก็หยิบอาวุธลับออกมาจากไหล่ซ้าย
มันมีรูปร่างคล้ายเล็บยาวประมาณ 20 เซน
ที่ปลายของเล็บมีเลือดของเซ้นอยู่
เป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วว่าเลือดของเซ้นนั้นเป็นพิษต่อพวกปีศาจ
แต่นอกจากเซ้นแห่งโลหิตแล้ว ไม่มีใครเคยใช้เลือดเป็นอาวุธมาก่อน
นั่นก็เพราะว่าการที่จะจัดการปีศาจระดับสูงอย่างเท็กเนียวนั้นจำเป็นต้องใช้เลือดจำนวนมาก
แต่เอโทรก็ประสบความสำเร็จในการสกัดพิษจากเลือดของเซ้น ออกมาในรูปของผลึกที่ใช้เป็นส่วนปลายของอาวุธนี้
ถ้าปีศาจถูกแทงด้วยเล็บนี้
พิษจะกระจายไปทั่วร่าง และไม่มีทางขจัดออกไปได้
เอโทรตั้งชื่อมันว่า เล็บศักสิทธิ์
เท็กเนียวรู้สึกถึงอันตราย และพยายามเตะอัลเล็ตออกไปแต่อัลเล็ตหลบได้
เค้ากำเล็บแน่นและแทงมันเข้าที่สีข้างของเท็กเนียว
8ปีก่อน เจ้าปีศาจตัวนี้ขโมยบ้านเกิดของเค้า ทำให้พี่สาวของเค้าถูกฆ่า
ทำให้เค้าเสียเพื่อนที่ดีที่สุดไป และทำให้ชีวิตที่สงบสุขหายไปตลอดการ
เพื่อจะฆ่ามัน เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เค้าแข็งเกร่งขึ้น
“ชั้นทำได้แล้ว!”
“ระวัง อัลเล็ต!” มอร่าและฮานตะโกนออกมาพร้อมกัน ขณะที่ถอยห่างออกจากเท็กเนียว
ร่างของเท็กเนียวเริ่มสั่นอย่างรุนแรงเป็นสัญญาณว่าพิษเข้าสู่ร่างกายแล้ว
อาการเริ่มต้นของพิษนั้นนั้น ประสาทรับรู้ทั้งหมดจะปั่นป่วน
จากนั้นความเจ็บปวดจะโจมตีทั่วร่าง หลังจากนั้นประสาทสัมผัสทั้งหมดจะถูกทำลาย
สูญเสียความทรงจำ และหลังจากทรมาน 5-10วัน ก็จะตาย
อัลเล็ตยังคงไม่ขยับ เค้ากำลังยินดีกับชัยชนะ
มันจบแล้ว เค้าคิด
“ระวัง!” มอร่าตะโกน แต่อัลเล็ตที่กำลังคิดว่าตนเองชนะแล้วอยู่นั้น ทำให้สูญเสียความระมัดระวังไป
“อัลเล็ต นายคิดว่านายฆ่าชั้นได้จริงๆเหรอ?”
หลังจากนั้นทุกอย่างก็มืดลง ภาพสุดท้ายที่เค้าเห็นคือ
เท็กเนียวที่ยังมีเล็บศักสิทธิ์แทงอยู่ กำลังกำหมัดอย่างใจเย็น
<<จบ Chapter
2 – Part 2>>
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น